ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่านี่คือครั้งแรกที่เขียนรีวิวเอง อาจจะเรียบเรียงได้ไม่น่าอ่านเท่าไหร่ แต่รับรองได้ว่าน่าทาน 555
เริ่มจาก... ด้วยความที่อยากลองเขียนรีวิวอะไรสักอย่างแต่ไม่รู้จะเขียนรีวิวอะไร และด้วยตัวเองเป็นมนุษย์สายแดรก เลยคิดว่ารีวิวของกินที่ตัวเองกินบ่อยๆล่ะกัน ซึ่งก็คือชาบู ที่กินทุกอาทิตย์ เรื่องน้ำหนักก็ตามนั้นแหละ 555 ส่วนร้านที่เลือกจะรีวิวไม่ใช่ร้านประจำหรอกครับ เพราะความที่เขียนรีวิวครั้งแรกนี่แหละเลยต้องหาร้านที่คิดว่าจะถ่ายรูปมารีวิวและร้านจะต้องเป็นร้านใหม่ๆ คนไม่ค่อยรีวิวหรือร้านเพิ่งเปิด ซึ่งก็ไปเจอร้านนี้ชื่อร้าน ชาบู ชูวับ (ชูวับ ชูวับ....แล้วก็ร้องเป็นเพลง 555)
(ภาพนี้ถ่ายจากทางประตูของร้านเมือเดินเข้ามาจะอยู่ตรงขวามือ)
พิกัดของร้าน: ร้านตั้งอยู่ที่เส้นรัชดา-สุทธิสาร จากถนนรัชดาเข้าซอยสุทธิวินิจฉัยเลยซอย20 มิถุนามาเรื่อยๆก็จะเจอร้านอยู่ซ้ายมือ ฝั่งขวามือเป็นลานจอดรถของร้าน หรือจะใช้เส้นทาง ถนนลาดพร้าว 64 แยก 4 (ตรงโลตัส) เลี้ยวเข้าไปประมาณ 150 -200 เมตร ตอนไปนั่งแทกซี่ไปแต่แทกซี่ไม่รู้ทางเลยขอลงตรงปากซอย 64 แล้วนั่งวินเอาเพราะเพิ่งมากินครั้งแรก ร้านหาไม่ยากเหมือนที่คิด
(เส้นทางนี้ 16.00น.-19.00น.จะเป็นทาง one way ใครมาเย็นๆควรศึกษาเส้นทางก่อนนะครับ)
(ภาพนี้ถ่ายจากฝั่งลานจอดรถ)
(ภาพนี้ถ่ายจากฝั่งร้านเห็นลานจอดรถอยู่ฝั่งตรงข้าม)
(เมื่อมาจากทางลาดพร้าว 64 เข้า แยก 4 มาจะเจอร้านอยู่ฝั่งขวามือ)
มาถึงร้านแล้ว ร้านยังขึ้นป้าย close อยู่เลย 5555 ร้านเปิด 11:30 แต่ผมกับเพื่อนมาถึงร้านตอน 11:20 เลยเดินไปถามว่าร้านเปิดหรือยัง พนักงานก็บอกเปิดแล้ว แล้วก็มาเปลี่ยนป้ายที่ประตู ลูกค้าคนแรกของวันเลยนะเนี่ย เลยทำให้ในร้านเป็นแบบที่เห็นแหละครับ ยังไม่มีคน เราก็ถ่ายรูปเพลินเลยกับเพื่อน
(ป้ายร้านไม่รู้ว่าแนวไหน แต่เราว่าน่ารักดี มีตู้ไอติมอยู่ตรงนั้นแหละ)
รูปแบบของร้าน: ร้านเป็นร้านชาบูเล็กๆแนวโฮมเมดครับ เปิดในซอย บรรยากาศคล้ายร้านกาแฟ ในร้านติดแอร์ ใครชอบบรรยากาศแบบOpen ด้านนอกมีโต๊ะ แต่ช่วงนี้เป็นหน้าฝนน่าจะเปิดบริการเฉพาะในร้านอย่างเดียว มีโต๊ะ ประมาณ 10 กว่าโต๊ะได้ แต่ล่ะโต๊ะ ก็จะมีเตาไฟฟ้าอยู่ เป็นโต๊ะขนาด 4 คน เรามากันสาม และว่างทั้งร้านเลย เลือกนั่งติดกระจก เห็นต้นดอกหญ้าข้างๆ ฟินกันเลย ได้อารมณ์เหมือนปิกนิค
(โต๊ะยังว่างอยู่เลย 555 มาตอนร้านเพิ่งเปิด ก็ชิว ไปดิ )
(โต๊ะที่เราเลือกนั่ง แดดไม่ส่องนะ วันที่ไปครื้มฝนหน่อย)
ภายในร้านสะอาดมาก ส่วนพนักงานก็มีกัน 2-3 คน ตอนพวกเราไปยังไม่มีลูกค้า เลยบริการโต๊ะเราโต๊ะเดียว บริการดีนะ ยิ้มแย้ม และ คอยดูอยู่ตลอด
น้ำซุป: พอได้โต๊ะแล้วพนักงานก็เดินมาถาม เอาน้ำซุปอะไร ซึ่งที่ร้านมีให้เลือก 3 แบบ มี ซุปใส ซุปสมุนไพร และ ซุปเตี๋ยวเรือ ไฮไลท์ของที่นี่เลย ซึ่งเลือกได้ 2 ซุป เราเลือก ซุปใส กับ ซุป ก๋วยเตี๋ยวเรือ
(ฝั่งซ้ายเป็นซุปใส ฝั่งขวาเป็นซุปก๋วยเตี๋ยวเรือ)
น้ำซุปใส ของที่นี่ดูเข้มกว่าซุปที่อื่น สีค่อนข้างจะเป็นซุปดำแล้ว เรา กับเพื่อน เถียงกันเลย ว่าเมื่อกี้ สั่งผิดเป็นซุปสมุนไพรหรือเปล่า ทำไมมันเป็นมันดำเข้มขนาดนี้ 555 แต่รสชาติดีเลยแหละ จะออกบางๆไม่เข้มจนเกินไปเหมือนสีของน้ำซุป
ซุปก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็ตามชื่อแหละครับ คือน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือนั่นแหละครับ ให้ความรู้สึกเหมือนกินก๋วยเตี๋ยว กลมกล่อม อร่อยจริง สรุปว่า เราและเพื่อน ชอบกิน ซุปก๋วยเตี๋ยวเรือกัน คือมันแปลก แล้วยังดันอร่อยอีก ขอสารภาพว่าไม่เคยกินชาบูน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือมาก่อน มันเข้ากันดีจริงๆ
อาหาร: หลังจากตั้งหม้อ ก็สั่งอาหารเลยทันที มากินชาบู ก็ต้องจุ่มมมม เลยสั่งเมนูหมูอย่างล่ะ 1 และเมนูเนื้ออย่างละ 1 เสริฟ เป็น เซต บนเขียงเลย น่ากินมาก เลยถ่ายรูปแชร์ไปเรียบร้อยตามระเบียบ หมูและเนื้อสด ทีแรกเราคิดว่าคงได้กินเนื้อแช่แข็ง มาสไลด์ให้กิน ปรากฏว่าไม่ใช่ครับ สไลด์บาง วางบนจานเขียงอย่างสวย พูดได้ว่าแบกเขียงมาเสริฟกันเลยครับคุณชาคริต ขอแนะนำเนื้อใบพาย กับหมูนุ่มคุโรบุตะ ส่วนเมนูทะเล กุ้งเป็นกุ้งแกะเปลือกแล้วครับ คุณภาพดีสดใหม่ ไม่มีกุ้งแม่น้ำ ส่วนเมนูอื่นๆก็เหมือนร้านชาบูทั่วๆไป ที่ผมชอบพิเศษจะมีเต้าหู้แผ่น กับสาหร่ายวากาเมะครับ ที่นี่ใช้อาหารคุณภาพจริงๆ และมีอาหารปรุงแล้วให้สั่งด้วย ไฮไล้อีกอย่างของที่นี่ ที่พนักงานแนะนำ ก็คือ ยำชูวับ เราก็จัดเลย กับ ยำสองเด้ง
(เมนูเนื้อทั้งหลายเราสั่งมาอย่างละ 1 เลยมาแบบนี้เลย)
(รูปนี้ตั้งใจจะให้ดูชุดเมนูหมู ไม่ได้ถ่ายไว้ มีภาพแค่นี้ 555)
(ส่วนเมนูอื่นๆก็ ประมาณนี้แหละครับ ขอโทษด้วยแสงเยอะไป แต่ ไม่มีรูปแล้วจริงๆ TT)
(ชักช้าอยู่ใย ได้มาก็เทเลย ออกร้านไปเลย 555 ไม่ใช่แระ)
(ตักออกมาก็หน้าตาแบบนี้แหละ)
(จานนี้ก็คือ ยำสองเด้ง นั้นเอง คือเอา ลูกชิ้นเด้ง กับ หมูเด้งมายำ น่าจะเป็นที่มาของชื่อ 555)
(ส่วนเมนูนี้คือไฮไลท์ของร้าน พนักงานแนะนำ ยำชูวับ มีอยู่สามคำ ต้องสั่งเพิ่มอีก TT)
น้ำจิ้ม: มากินชาบูแล้ว สำหรับผมน้ำจิ้มถือเป็น สิ่งที่ใช้ในการตัดสินใจในการมากินรอบต่อไปครับ 555 น้ำจิ้ม ทางร้านจะมีให้สองอย่างครับ คือ น้ำจิ้ม ซีฟูด กับ น้ำจิ้มชาบู
(น้ำจิ้ม ทางซ้าย ก็น้ำจิ้มซีฟูด ทางขวาก็น้ำจิ้มชาบู)
น้ำจิ้มซีฟูด เราว่าเปรี้ยวเกินไปนิด แต่เพื่อเราบอกอร่อย ส่วนน้ำจิ้มชาบู เราว่าอร่อยมาก เพื่อนอีกคน ก็ชอบ กินครั้งแรก ชมน้ำจิ้มชาบูก่อนเลย อันนี้ต้องไปลองเองล่ะ ว่าอร่อยแค่ไหน
(คำแรก ฟินนนนน)
ของหวาน: ที่นี่มีของหวานเป็นไอติมแท่งโบราณ Ete ให้คนละแท่งสำหรับบุฟเฟ่ 369 เราถือว่าโอเคนะ ทานของดีคุณภาพไปเลย
(ete ถั่วดำครับ)
เครื่องดื่ม: เครื่องดื่มของร้านไม่รวมกับบุฟเฟ่ 259 แต่จะรวมในชุดบุฟเฟ่ 369 เมนูเครื่องดื่มเป็นรีฟิล มีน้ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำสมุนไพร ซึ่งวันที่เราไปกิน ก็มี น้ำกระเจี๊ยบ กับ น้ำมะตูม ให้เลือกแค่สองอย่าง เราสั่งน้ำมะตูมมา ส่วนเพื่อน สั่งน้ำกระเจี๊ยบ เราก็ชิมของเพื่อนตามระเบียบ 555 แลกกันชิม รสชาติ เราว่า น้ำมะตูมอร่อยซึ่งผิดคาดจากที่จินตนาการไว้ ว่าต้องไม่อร่อยแน่ ๆ สรุปกินยาวๆ ไม่เปลี่ยนน้ำ ส่วนเพื่อน เปลี่ยนมากินน้ำมะตูมแบบเรา
(แก้วทางซ้าย น้ำมะตูม ส่วนทางขวาก็น้ำกระเจี๊ยบ)
ราคา: สำหรับราคาที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟ่ซึ่งมีสองราคา เมนูหมู 259.- บาท กับ เมนูเนื้อ 369.- บาท ส่วนเมนู ของ สองราคา ก็ตามภาพเลยครับซึ่งเมนูจะเหมือนกัน ราคา369ก็จะเพิ่มพวกอาหารทะเล กับเนื้อขึ้นมา พวกเราตกลงกันที่ราคา 369 เพราะเป็นราคารวมน้ำรีฟิลแถมยังได้ไอติมอีกคนละแท่ง ถือว่าคุ้มกว่า
(เมนูอาหาร ก็จะแบ่งคนละใบกันเลยของสองราคา อยากสั่งอะไรก็เขียนจำนวนไปในช่องขวามือ สั่งไม่ยาก)
สรุป: โดยรวมแล้วเราให้ผ่าน ไปกินรอบสองแน่นอน ส่วนเมื่อไหร่นั้นก็ต้องดูเงินในกระเป๋า 555 อาหารสดดี เราชอบซุปก๋วยเตี๋ยวเรือ เมนูเนื้อต่างๆ ยำชูวับ น้ำจิ้มสุกี้ กับ น้ำมะตูม ใครอยู่แถวนี้ ก็ไปลองกันได้ครับ ร้านนี้เหมาะสำหรับ กลุ่มเพื่อน ครอบครัว และคู่รัก คนที่มีรถส่วนตัวก็มีที่จอดให้น่าจะเพียงพอนะครับ ประเมินด้วยสายตาจากจำนวนโต๊ะและขนาดลานจอดรถ ส่วนการเดินทางเราว่าร้านตั้งในซอยเล็กไปหน่อย รถประจำทางไม่ผ่าน แต่รถไม่เยอะเท่าไหร่ก็ ถือว่าสะดวกอยู่ละ ร้านหาไม่ยาก
*** บทความข้างต้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล หากมีคำพูดที่สร้างความไม่พอใจ ต้องขออภัยด้วยครับ
ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 1384601
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น